นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาที่กำหนด กล่าวถึงกรณีผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่แสดงความพอใจกับการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล และมั่นใจว่าสลากฯ ราคา 80 บาท มีอยู่จริง โดยหลังจากนี้การแก้ไขปัญหาจะค่อยๆ เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านโครงการต่างๆ ที่ทยอยออกมา ซึ่งล่าสุดกองสลากฯ เตรียมปรับเพิ่ม สลากดิจิทัลอีก 2 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 ส.ค. 2565 ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 2565 รวมเป็น 7.1 ล้านฉบับ และจะปรับเพิ่มต่อเนื่องงวดละ 2 ล้านฉบับ สูงสุด 20 ล้านฉบับภายในปีนี้ รวมถึงโครงการสลาก 80 ซึ่งปัจจุบันมีจุดจำหน่ายทั้งหมด 754 จุด และคาดว่าภายในเดือน ส.ค.นี้ จะสามารถดำเนินการให้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,077 จุดทั่วประเทศ ตลอดจนจะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังไปที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. และบางจากทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 2,000 จุด ภายในปีนี้ ซึ่งเหล่านี้จะทำให้ประชาชนเข้าถึงสลากฯ ราคา 80 บาท ได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการคัดเลือกผู้ค้าในระบบซื้อจองล่วงหน้าในปี 2565 นายชาญกฤช กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ ได้คัดกรองจนเหลือผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 3 แสนราย ก่อนจะสุ่มคัดเลือกให้เหลือ 7 หมื่นราย ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมให้ความมั่นใจต่อกระบวนการคัดกรองคุณสมบัติว่า เป็นไปอย่างโปร่งใส รอบคอบ ไม่มีการสอดไส้นำเครือข่ายตัวเองเข้ามารับโควตา เพราะได้นำฐานข้อมูลจาก 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาประกอบการพิจารณา ทำให้การคัดกรองมีความแม่นยำ ถูกต้อง และได้ผู้ที่ทำอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริง ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยหรือผู้พิการมาจัดจำหน่ายสลากฯ
ที่น่าสนใจ นายชาญกฤช ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก” และ “สลากตัวเลข 3 หลัก” ว่า ทางสำนักงานสลากฯ ได้ลงนามในสัญญากับ ม.ขอนแก่นเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่ ม.ขอนแก่นจัดทำแนวทางการการรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด ก่อนจะเปิดเผยรายละเอียดให้ประชาชนรับทราบตามขั้นตอนกฎหมายในต้นเดือน ก.ค. จากนั้น จึงจะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ ควบคู่กับการลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังทุกภาคทั่วประเทศภายใน ก.ค.นี้ ซึ่งกำหนดไว้ภาคละ 1 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ แต่ทั้งนี้ต้องรอที่ประชุมสรุปว่าจะเป็นจังหวัดใด และวัน-เวลาใด อย่างไรก็ตาม ไทม์ไลน์ทั้งหมดที่วางไว้จะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อสรุปส่งเรื่องให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือบอร์ดพิจารณา ก่อนส่งไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาต่อไป
“ผมขอย้ำว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะออกมาไม่ใช่หวย 2 ตัว 3 ตัว เหมือนในอดีต เพราะสิ่งนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำได้ แต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดำเนินการอยู่เรียกว่า สลากตัวเลข 3 หลัก ซึ่งมีรูปแบบและวิธีการแตกต่างกัน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดจะเปิดให้ประชาชนเห็นกันในช่วงการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น” นายชาญกฤช กล่าว