นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ และนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมและดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์จากกรณีโทรศัพท์ข่มขู่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความรับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา วัชระวีรพงษ์ ให้หยุดแสดงความคิดเห็น โดยมีการใช้ถ้อยคำว่าจะกระทืบและแจ้งความใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อต้องการให้เกิดความหวาดกลัว
โดยมีนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยทนายตั้ม ระบุว่า อยากให้สภาตรวจสอบพฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ว่าเข้าข่ายการข่มขู่ประชาชนหรือไม่ เพราะมีการพูดในทำนองว่าจะใช้วิธีนอกกฎหมาย และวิธีทางการเมืองกับทนายเดชา ทั้งจากการโทรศัพท์พูดคุยส่วนตัว และไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่าจะมีการแจ้งความเอาผิดทนายเดชาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งแสดงเจตนาว่าต้องการกลั่นแกล้ง และยังมีการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวแห่งหนึ่งยอมรับว่า ได้ข่มขู่ทนายเดชาจริง ตนจึงเห็นว่ามาตรฐานจริยธรรมของนักการเมืองควรมีสูงกว่าประชาชนทั่วไป พฤติกรรมดังกล่าวทำให้สภาดูไม่ดีเท่าไหร่
ทั้งนี้นายษิทรา ยังระบุว่า การที่นายมงคลกิตติ์อ้างว่า การไปแจ้งความใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เนื่องจากส.ส.ในพื้นที่อยู่ในจังหวัดนั้น เป็นเพียงคำพูดที่ต้องการดึงพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง หากเป็นลูกผู้ชายจริงไม่จำเป็นต้องโยนให้คนนั้นคนนี้ เพราะเหมือนเด็ก ผู้ใหญ่เขาไม่ทำกัน และหากมีการแจ้งความในพื้นที่ต่างๆจริง ตนจะรวบรวมหลักฐานมายื่นให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเพราะถือเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน เพราะนายมงคลกิตติ์มีการพูดว่าโยงกับพรรคการเมือง ทั้งๆที่ไม่มีใครไปยุ่งกับพรรคไทยศรีวิไลย์เลย ซึ่งหากหลังจากนี้นายมงคลกิตติ์ ยังมีพฤติกรรมแบบที่ผู้แทนดีๆเขาไม่ทำกัน พวกตนก็จะรวบรวมหลักฐานมาดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนที่มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าพวกตนหิวแสงอยากมีบทบาทในคดีของแตงโม นายษิทรา ยอมรับว่า สื่อให้ความสนใจกับตนอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากดูว่าใครหิวแสงให้ดูในช่วงแรก ใครที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีแต่มีคอนเทนต์สร้างให้คนติดตามทุกวัน แบบนี้เรียกว่าหิวแสงหรือไม่
พร้อมกันนายษิทรา เปิดเผยว่า ก่อนเดินทางมายื่นหนังสือวันนี้ได้ติดต่อไปยังทนายเดชา เพื่อสอบถามรายละเอียด แต่ทนายเดชาติดธุระจึงยังไม่ได้พูดคุยกัน และพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปต่างประเทศ จึงต้องรีบเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นตัวแทนของทนายเดชา หากเจ้าตัวต้องการยื่นเรื่องก็สามารถเดินทางมายื่นหนังสือเองได้ ทราบว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า จากนี้จะนำเรื่องส่งให้คณะกรรมการพิจารณาประมวลจริยธรรมนักการเมือง เบื้องต้นทางสภาได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งพฤติกรรมบางอย่างอาจเข้าข่ายประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง 2562 ข้อ13 ที่ห้ามสมาชิกทำการข่มขู่ หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย หรือประทุษร้ายต่อบุคคลอื่นใด จึงต้องไปตีความว่าการกระทำของนายมงคลกิตติ์เข้าข่ายความผิดนี้หรือไม่ รวมถึงต้องดูว่าการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความหวาดกลัวจากการใช้ถ้อยคำว่าจะใช้วิธีนอกระบบวิธีทางการเมือง และการบอกจะแจ้งความใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดินจากการไปยุ่งเหยิงกับคดีการเสียชีวิตของแตงโมมีความเกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่หรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีมูลก็จะส่งให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ และหากมีความผิดก็จะส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองพิจารณา ซึ่งจะทำให้พ้นจากตำแหน่งต่อไป รวมถึงจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอย่างน้อย 10 ปี แต่อย่างไรก็ตามจากข้อมูลขณะนี้เห็นว่า พฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์น่าจะเข้าข่ายการข่มขู่ อาฆาตมาดร้าย คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 เดือน แต่จะเร่งให้เร็วที่สุด