KEY :
- ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พาผู้เสียหายแจ้าความ กรณีแพทย์วินิฉัยโรคผิด
- โดยวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมีก้อนเนื้อในลำไส้ ที่อาจเป็นเนื้อร้ายต้องผ่าตัด
- เมื่อผ่าจริง ไม่พบก้อนเนื้อ แต่มีการผ่าก้อนซีสต์ในรังไข่ และไส้ติ่งออก โดยไม่ได้รับการยินยอมและไม่จำเป็น
…
วันนี้ (23 เม.ย.65) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พาผู้เสียหาย มาแจ้งความหลังได้รับความเสียหายจากการรักษาของโรงพยาบาลดัง ย่านโชคชัย 4 โดย น.ส.ปิยะดา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ตนเองมีอาการปวดท้อง มารดาจึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อเข้ารับการรักษา ซี่งคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ได้ทำการวินิจฉัยโรคของ น.ส.ปิยะดา ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
โดย ผู้เสียหายระบุว่า พบก้อนเนื้อจำนวน 3 ก้อนในลำใส้เล็ก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นเนื้อร้ายจำเป็นต้องรักษาโดยวิธีการผ่าตัดใหญ่เป็นการด่วน ทำให้ทางบิดา และมารดาของ น.ส.ปิยะดา ต้องรีบตัดสินใจ และรีบไปหาเงินมาใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้ เพราะเกรงว่า น.ส.ปิยะดา จะเกิดอันตรายจากโรคร้าย
ภายหลัง เมื่อการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเสร็จสิ้นแล้วกลับไม่พบก้อนเนื้อ 3 ก้อน ดังที่คณะแพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวได้วินิจฉัยไว้ และยังได้มีการผ่าตัดเอาซีสต์ขนาดเล็กในรังไข่ ซึ่งอยู่คนละตำแหน่งกับลำไส้เล็ก รวมไปถึงการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกโดยพลการ ซึ่งไม่ได้รับความยินยอม และไม่มีความจำเป็นต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้องอย่างเร่งด่วนแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดครั้งนี้สูงถึง 334,199 บาท
ทั้งนี้ ก่อน น.ส.ปิยะดา จะเดินทางมาแจ้งความได้มีการเข้าไปตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และได้พบว่า การผ่าตัดเอาก้อนซีสต์ออกนั่น มีการตัดรังไข่ออกไปด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอยู่ในใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งที่ไปตรวจร่างกายมา โดยทนายอนันต์ชัยได้เปิดเผยว่า ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายในครั้งนี้ 10 ล้านบาท และอยากให้โรงพยาบาลดังกล่าวออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไปด้วย
ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์