วันนี้ (16 มี.ค. 65) ที่ วัดท่าไม้ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ท่านเจ้าคุณพระญาณวิกรม หลวงพี่อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีอนุญาตให้ ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และ โรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ บวชพราหมณ์ ตามแนวโยคี ถือศีล 8 จะผิดกฎหมายหรือไม่ว่า ตามหลักไม่ได้เพราะได้ดูข้อกฎหมายและพระวินัยตามกฎมหาเถรสมาคมแล้ว ไม่สามารถบวชได้ แต่ตนบวชให้เพราะทั้ง 2 คน ไปขอบวชวัดอื่นแต่ไม่มีที่ไหนอนุญาต ตนเลยถามไปว่า จะยอมบวชพราหมณ์ไหม ทั้ง 2 คนยอม เพื่อต้องการจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับ #แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์
.
อีกทั้ง แตงโมเป็นลูกศิษย์หลวงพี่ด้วยรู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้ว ส่วน อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ และ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ก็มาปรึกษากับตน จึงได้ย้ำไปให้ช่วยจัดงานพิธีไว้อาลัยแตงโม ให้เต็มที่ ตนไม่ได้ไปเพราะเป็นพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ แต่การบวชพราหมณ์ ถือศีล 8 แบบโยคี สามารถบวชได้ ถือว่าเคร่งครัด ตนจึงลองใจว่า อยากลองปลงผมไหม ทั้ง 2 คนก็บอกว่ายอม แม้ในตอนแรกทั้งคู่มีความตั้งใจอยากบวชที่วัดท่าไม้ แต่ที่วัดคนเยอะ สภาพแวดล้อมไม่ดี และอยากทำให้กรรมฐาน ถึงให้ไปบวช ที่ ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นสถานที่สงบ สมถะ เรียบง่าย ต้อง ยอมลำบาก ทานข้าวมื้อเดียว นอนที่ป่าช้า เดินธุดงค์ ค่ำไหนนอนนั่น บวชแล้วออกปฏิบัติเลยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
.
ทั้งนี้หลวงพี่อุเทน ยังกล่าวอีกว่า ทั้งคู่ตั้งใจบวช 15 วัน แล้วแต่ศรัทธา อยากบวชต่อก็แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ถ้าตำรวจเรียกสามารถไปได้เลย ไม่ต้องกังวล สำหรับการบวชพราหมณ์ หรือโยคี จะปฏิบัติกรรมฐานคล้ายกับพระสายป่า ที่มีการออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขา ทั้งสองคนก็เช่นกัน เดินธุดงค์ข้ามจังหวัดผ่านป่าเขาจากราชบุรีไปถึงกาญจนบุรี ปลักกลดนอน ส่วนชุดที่ใส่ไม่ใช่เป็นจีวรเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป แต่เป็นชุดสีน้ำตาล ซึ่งการสวมชุดไม่สาคัญ ทั้งหมดอยู่ที่ใจ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ส่วนการออกธุดงค์ มีอาตมาเป็นองค์นำ มีอีกองค์ที่เก่งกรรมฐาน พระ 2 ฆราวาส 2 ทั้งสองคนต้องอดทนเพราะไม่เคยบวช หรือลำบากมาก่อน
.
ส่วนสาเหตุที่ให้ทั้งคู่บวชนั้น หลวงพี่อุเทน เผยว่า อยากช่วยค้นหาความจริง เมื่อเขามาเป็นลูกศิษย์ มาบวชก็ต้องเล่าบางอย่างให้ฟัง ตนก็ต้องการค้นหาความจริงเหมือนกับทุก ๆ คน และตนเคยบวชให้กับคนที่ผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว สุดท้ายเขากลับไปรับสารภาพ คนเราหนีความจริงไม่พ้น
เปรียบได้กับใช้หลักธรรมสืบสวนการค้นหาความจริง
.
เมื่อผู้สื่องข่าวถามว่า ปอกับโรเบิร์ต ได้เล่าเหตุการณ์บนเรือให้ฟังหรือไม่ หลวงพี่อุเทน บอกว่า ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เขาร้อน เขาลำบาก หนีร้อนมาพึ่งเย็น ถ้าไม่ทำให้เขาเย็นลงก็อาจจะยิ่งเตลิด ถ้ายังไม่พูดความจริง อนาคตจะไปอยู่ที่ไหนยังไงก็จะหนีความจริงไม่พ้น ตนคิดเสมอว่า ธรรมะย่อมขัดเกลาจิตใจที่หยาบกระด้างของมนุษย์ได้ ตนเจอสิ่งที่ยากมาแล้ว มีหลายคนที่มีชื่อเสียง เคยประสบปัญหาเดียวกัน ตนก็สอนและให้ใช้สติก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้
.
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า คนที่มีปัญหาต้องกลับมาพึ่งพาวัด ตนมองว่า ความเมตตาต้องมาก่อน เราเป็นอาจารย์เราต้องสามารถให้คนพึ่งพาได้ ไม่แยกแยะว่าใครจะรวยหรือจนหรือดัง ตนยอมโดนด่า แต่ไม่เสียใจ ต้องทำให้เขาเชื่อใจแล้วเขาจะบอกความจริงกับเราไม่มากก็น้อย ใช้หลักจิตวิทยา ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้ได้ยินอะไรมาก็อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ นอกจากนี้ ทั้งคู่ตั้งใจบวชให้แตงโม ไม่ได้บวชเพราะเกิดจากความเครียด ตอนทำพิธีปลงผมก็มีการเอ่ยชื่อถึงแตงโม ขอขมาคนที่เคยล่วงเกิน
.
อย่างไรก็ตามช่วงท้ายผู้สื่องข่าวได้ถามว่า ทนลำบากได้หรือไม่นั้น ทั้งสองคนยืนยันว่า ทนได้ เช่น ไม่ใส่รองเท้า กินข้าวมื้อเดียว อาบน้ำวันละ 1 ครั้ง นอนบนก้อนหิน อยู่ในถ้ำ ไม่มีไฟ อยู่ในกลด พร้อมยืนยันไม่ได้เอาคนผิดไปปกป้อง ต้องการค้นหาความจริง และต้องการช่วยเจ้าหน้าที่คลี่คลาย และไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ทำแล้วเหนื่อย เป็นภาระ โดนต่อว่าก็ไม่ได้เสียใจ เพราะต้องการคลี่คลายความจริง หลวงพี่อุเทนกล่าว