ร้านค้าทองวานนี้ (7 มี.ค.) คึกคัก มีนักลงทุนเก็งกำไรนำทองมาขายต่อเนื่อง หลังราคาทองคำปรับสูงขึ้นมาก โดยปิดตลาดปรับขึ้น 650 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่ง รับซื้ออยู่ที่ 30,800 บาท ขายออก 30,900 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่ 30,244.20 บาท ขายออก 31,400 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่าแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลก และทองรูปพรรณยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก หากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังคงยืดเยื้อ เพราะทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ตอนนี้ร้านค้าทอง เตรียมสำรองเงินสดไว้ให้เพียงพอรองรับการขาย แต่ขณะนี้คนในประเทศส่วนใหญ่ทยอยขายทองทำกำไรกันไปมากจึงเหลือทองในมือน้อยลง ส่วนร้านทอง ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะราคาเปลี่ยนแปลงทุกนาที ทุกชั่วโมง และต้องใช้ความระมัดระวังในการคำนวณราคาซื้อขายในประเทศ เพราะมีความเสี่ยงสูง
ขณะที่ นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ วายแอลจี ระบุว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์อีกครั้ง นับจากเคยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 เป็นผลจากความกังวลว่าเหตุการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน จะยืดเยื้อจนฉุดเศรษฐกิจให้ชะลอตัว
ทั้งนี้ หากสางครามยังดำเนินต่อไป มีโอกาสที่ราคาทองจะทดสอบที่ระดับ 2,011 – 2,031 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรืออาจขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ แต่ในระยะสั้นอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเป็นระยะ จึงแนะนักลงทุนให้ซื้อขายอย่างระมัดระวัง ควรชะลอการเข้าซื้อหากราคาหลุด 1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์
