.
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยระบุว่า จากญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีของพรรคฝ่ายค้านนั้น มีข้อมูลหลายส่วนที่ “คาดเคลื่อน” ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของทางราชการ อาจสร้างผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตนได้ใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพี่น้องประชาชนได้รับรู้ผ่านการถ่ายทอดสดแล้วเมื่อช่วงเช้า และขอใช้ช่องทางนี้ในการสรุปประเด็นสำคัญๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องอีกครั้ง
.
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ในปัจจุบันทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย กำลังเผชิญกับมหาวิกฤติโควิด ที่ทำให้เศรษฐกิจของโลกถดถอยอย่างรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ยิ่งกว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2549 แต่รัฐบาลและ ศบค. ก็สามารถบริหารสถานการณ์ ด้วยหลักการรักษาความสมดุลทางด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจจนเป็นผลสำเร็จ นานาชาติให้การยอมรับและชื่นชมประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โควิดได้ที่ดีที่สุด ทำให้ไทยได้รับการจัดอันดับในหลายด้าน
.
นอกจากนี้สามารถจัดหาและฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ก่อนสิ้นปี 2564 อีกทั้งสามารถเปิดประเทศไทยได้ ในเดือนพ.ย. 2564 ตามที่ได้ประกาศไว้ จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลดีสืบเนื่องในอีกหลายด้าน
.
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตโควิดที่ยังไม่รู้วันสิ้นสุดนั้น รัฐบาลไม่เคยหยุดคิดเรื่องการพัฒนาและการลงทุนเพื่ออนาคตของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมที่จะพลิกโฉมประเทศ ด้วยการกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งนี้การดำเนินการต่างๆ ไม่ได้เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่เป็นการดำเนินการตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อการพัฒนาในระยะยาว สอดคล้องกับทิศทางของโลก สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เรารอดพ้นจากวิกฤตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมที่จะฟื้นฟูประเทศ ไปสู่การเป็นประเทศชั้นนำของโลกได้ในอนาคตครับ
.