วันที่ 4 ก.พ.65 อาคารรัฐสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สมชาย ฝั่งชลจิตร, ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล เเถลงต่อสื่อมวลชน หลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับร่างรายงานผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ด้วยมติ 143 ต่อ 121 จากผู้ลงมติ 317 คน
.
สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหตุผลหลักของพรรคก้าวไกลในการไม่รับรายงาน คือ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท ไม่ควรอยู่บนความรู้สึกส่วนตัว เเต่ต้องศึกษาอย่างจริงจังในรายละเอียดเช่นใครจะมาลงทุน คุ้มค่ากับสิ่งที่ทำไปหรือไม่ หรือจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง ความจริงวาระนี้ควรจะลงมติตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่เเล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลชัดเจนแต่แรกว่าจะไม่รับรายงานฉบับนี้ เเต่ก็เป็นเรื่องดีที่การลงมติในวันนี้ฝ่ายรัฐบาลให้ฟรีโหวตทำให้เสียงส่วนใหญ่ลงมติไม่รับ เพราะรายงานฉบับนี้มีลักษณะชี้นำมากเกินไป มีหลายประเด็นยังตอบคำถามไม่ได้ ประเด็นแรก การขุดคลองไทยตัดผ่านภูเขาสูง 383 เมตร ซึ่งสูงกว่าตึกมหานคร ในทางวิศวกรรมจะทำได้อย่างไร หรือทำได้แล้วคุ้มค่าหรือไม่ เราต้องทำบนความเป็นไปได้ ไม่ใช่คิดบนแผนที่
.
ประเด็นต่อมา จะคุ้มค่าหรือไม่ หากเปรียบเทียบการขนส่งยุคปัจจุบันอย่าง คลองสุเอซ ย่นเวลาได้ 8-10 วัน ,คลองปานามา ย่นเวลาได้ 22 วัน แต่คลองไทย ย่นเวลาได้แค่ 2 วัน ในมุมคมนาคมไม่คุ้มค่าแน่นอน ประเด็นที่สาม ต้องเวนคืนที่ดินแปลงยักษ์ รวมพื้นที่มากกว่า 8,100 ตารางกิโลเมตร เปรียบเทียบคือ 14 เท่าของจังหวัดภูเก็ต คิดว่าเราจะต้องพิจารณาศึกษาบนความเป็นจริง ไม่ใช่ความฝัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่พรรคก้าวไกล ไม่รับรายงานฉบับนี้
.
ด้าน สมชาย กล่าวเสริมว่า คนอยู่ในพื้นที่เวนคืนมีหลายเเสนคน คำถามคือ เราจะอพยพคนเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังมีทิศทางการผลักดันชี้นำมาจากบริษัทในประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งในเอเชีย ซึ่งจะส่งผลต่อยุทธศาสตร์ประเทศไทยท่ามกลางดุลอำนาจของมหาอำนาจด้วย จึงต้องขอถามย้อนกลับไปว่า แล้วคนไทยจะได้อะไรบ้างจากความเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้น ตนจึงไม่เห็นด้วยแต่แรกกับการที่จะให้สภาชี้นำให้สังคมเห็นชอบผ่านการรับหลักการของรายงานนี้