คัดลอก URL แล้ว
‘แม่หมอกระต่าย’ เสียงสั่น น้ำตาคลอ! ร้องสภาฯ สอบคดีคู่ขนาน ตร. โอดลูกสาวเสียชีวิต แต่ยังถูกซ้ำเติม

‘แม่หมอกระต่าย’ เสียงสั่น น้ำตาคลอ! ร้องสภาฯ สอบคดีคู่ขนาน ตร. โอดลูกสาวเสียชีวิต แต่ยังถูกซ้ำเติม

นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล แม่ของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ที่ถูก ส.ต.ต.ขับรถชนเสียชีวิตขณะข้ามถนนบนทางม้าลาย พร้อมด้วยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ,นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย มารับหนังสือ

ทนายความ กล่าวว่า การมายื่น กมธ.ไม่ได้ต้องการมาร้องเรียน แต่มาเพื่อขอให้สภาฯซึ่งเป็นกลางและมีอิสระเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้คู่ขนานไปกับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ไม่เชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เนื่องจากเห็นว่า การสูญเสียครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และประเด็นที่ยังคาใจคือการบังคับใช้กฎหมายกับการใช้ทางม้าลาย เพราะวันนี้หลังเกิดเหตุแล้ว ปรากฏว่ารถตรงบริเวณดังกล่าวยังวิ่งเร็วมาก แม้ปัจจุบันจะมีการติดป้ายเตือน แต่ก็ยังพบว่ารถวิ่งเร็วเหมือนเดิม ซึ่งเรามีหลักฐานมาแสดงต่อ กมธ.ด้วย จึงอยากให้เร่งแก้ไขในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแบบนี้อีก เนื่องจากจุดตรงนั้นเป็นโรงพยาบาล มีคอนโดมิเนียมเป็นแหล่งชุมชน

นางรัชนี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกสาวของตนไม่ได้ข้ามถนนด้วยความประมาท หลายคนมองว่าเวลาเกิดปัญหาแบบนี้กับโยนความผิดให้กับผู้ข้ามถนน ลูกสาวของตนไม่ได้มีโอกาสป้องกันตัวเอง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ไม่มีโอกาสแม้แต่ได้รับการรักษา แม่รับไม่ได้ จึงขอฝากประชาชนทุกคนให้กำลังใจ และให้ความเป็นธรรม ไม่อยากให้ลูกสาวตายฟรี คำนี้ตนไม่อยากพูดเลย และขณะนี้ตนเป็นห่วงลูกสาวอีกคนนึง เพราะมีอาการหวาดกลัวการข้ามถนน จึงอยากให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยสภาขับเคลื่อนเพราะไม่อยากให้คดีนี้เหมือนคดีอื่นๆที่หายไปโดยไม่ส่งผลอะไรให้กับประเทศเลย ซึ่งหมอกระต่าย จะได้ภาคภูมิใจที่คดีของตน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม

ขณะที่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ กรรมาธิการจะให้ความสำคัญ ซึ่งกรณีดังกล่าว มีหลายประเด็นโดยเฉพาะเรื่องของกฎหมายที่จะต้องแก้ไขเพื่อให้การเดินข้ามถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น แม้ในระยะหลังมีการตื่นตัวเรื่องนี้ แต่คงไม่เพียงพอ จึงต้องแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยอีก ส่วนจะเชิญใครเข้ามาชี้แจงกรรมาธิการ จะมีการปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง