สืบเนื่องจากกรณีโพสต์เตือนภัยจากกลุ่มแม่บ้าน ที่มีหญิงรายหนึ่งออกมาเปิดเผยถึงประสบการณ์เฉียดตาย จากการนำน้ำยาซักผ้าขาวไฮเตอร์ไปล้างห้องน้ำ พร้อมกับนำน้ำยาเช็ดกระจก ไปทำความสะอาดที่กระจกในห้องน้ำ จนกระทั่งน้ำยาเช็ดกระจก ไหลลงมาผสมกับไฮเตอร์ จนทำให้หญิงรายนี้ได้สูดดมก๊าซที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของ 2 น้ำยา ก่อนเกิดอาการใจสั่น มือสั่น และอยากอาเจียน เกือบหมดสติ แต่โชคดีที่ตั้งสติได้ แล้วไปโรงพยาบาลทัน
ล่าสุด รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับเหตุการที่เกิดขึ้นนี้ พร้อมบอกด้วยว่า ทำไม น้ำยา 2 ตัวนี้ ถึงทำให้เราสามารถเสียชีวิตได้ เมื่อสูดดมเข้าไป โดย อ.อ๊อด กล่าวไว้ว่า “ที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นสิ่งที่เคยเกิดกับหลายๆบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนมากจะเกิดกับน้ำยาซักผ้าขาวและน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ในเคสนี้เกิดจากน้ำยาซักผ้าขาวและน้ำยาเช็ดกระจกมาดูกันว่าทำไมสองตัวนี้ถึงต้องห้ามเจอกัน
เริ่มจากตัวน้ำยาซักผ้าขาว มีส่วนผสมของสารเคมี โซเดียมไฮโปคลอไรต์ ส่วนน้ำยาเช็ดกระจกจะมีส่วนผสมของโซดาไฟอ่อนๆ แต่มีความเป็นเบสอยู่ ซึ่งถ้าสองตัวนี้เจอกันเมื่อไหร่ มันจะทำปฏิกิริยากันจนเกิดฟอง ฟองก๊าซที่เกิดขึ้นก็คือตัว “คลอรีน” ซึ่งคือก๊าซพิษเป็นก๊าซที่เวลาเราสูดเข้าไป ก็จะไปทำปฏิกิริยากับน้ำในปอด มันก็จะเปลี่ยนสภาพน้ำในปอดของเรา หรือทางเดินหายใจที่มีความชื้นด้วยน้ำ มีสภาพกลายเป็นกรด เราจึงเกิดการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ถ้าเกิดเราได้รับสารพิษนี้นานๆ อาจทำให้เราหมดสติได้ และมีการหายใจที่ติดขัด จนทำให้ถึงแก่ชีวิต ซึ่งเคสนี้ถือว่าโชคดีที่รู้สึกตัวเร็ว เพราะฉะนั้น อ.อ๊อด จึงอยากย้ำเตือน ให้ทุกคนจำไว้เลยว่า สิ่งที่ไม่ควรนำมาผสมกันเลยคือ
- น้ำยาล้างห้องน้ำกับน้ำยาซักผ้าขาว
- ประเภททำความสะอาด คล้ายๆน้ำยาล้างห้องน้ำ เช่นน้ำยาเช็ดกระจก พวกนี้จะมีโซดาไฟ กับน้ำยาซักผ้าขาว