เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง ภายหลังฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ร่วมกับจับกุมนายสุพร อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1843/2564 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่ตามารถขัดขืนได้” โดยจับได้บริเวณสุสานแห่งหนึ่งใน ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก มูลนิธิปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้พาแม่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.พิพัฒน์พงศ์ เพิ่มพูล รอง สารวัตร ( สอบสวน ) สน.ดอนเมือง ภายหลังลูกสาวผู้เสียหายถูกนายสุพร อายุ 35 ปี พ่อเลี้ยงข่มขืน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ทราบว่านายสุพร ได้หลบหนีมาทำงานในสุสานแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จึงได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ลงพื้นที่จนสามารถติดตามจับกุมได้ในที่สุด
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสุพร ให้การรับสารภาพว่า ตนคบกับแม่เด็กมานาน 2 ปี ซึ่งพักอยู่ด้วยกันในบ้านรวม 4 คน มีตนเอง แม่เด็ก และลูกเลี้ยงคนโตอายุ 12 ปี คนเล็ก 7 ปี ยอมรับว่าก่อเหตุกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 7 ปี จริง โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่บ้านก่อเหตุกระทำชำเรามาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งหลังก่อเหตุตนไม่ได้คิดจะหลบหนี แค่ออกมาทำงานทำความสะอาดสุสานเท่านั้น แต่ก็รู้ว่ามีการประกาศตามหาตนในสื่อโซเชียลของดอนเมือง และชลบุรี ทางญาติก็พยายามบอกให้เข้ามอบตัว ซึ่งตนคิดว่าทำงานวันนี้เสร็จก็จะเข้ามอบตัวแต่มาถูกตามจับเสียก่อน ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ด้านนางน้อย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 31 ปี แม่เด็ก เล่าว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ซึ่งตนเองยังไม่เลิกงาน ลูกสาวทั้ง 2 คนอยู่บ้านเพียงลำพังแต่มีบรรดาญาติ คอยดูแลอยู่บ้านข้างๆ โดยเหตุเกิดขึ้นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ลูกสาวคนโต ออกไปนั่งเล่นข้างบ้าน ลูกสาวคนเล็กนอนเล่นในบ้าน โดยมีนายสุพร อยู่ในบ้านด้วย กระทั้งลูกสาวคนโตเดินไปบอกญาติที่อยู่ข้างบ้านว่าพ่อเลี้ยงกำลังทำอนาจารน้องสาวอยู่ น้องชายตนจึงรีบเข้าไปในบ้านและจับได้คาหนังคาเขา จากนั้นทางญาติได้ช่วยกันจับตัวไว้ เมื่อตนเลิกงานกลับมาก็ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดนายสุพร ได้หลบหนีไปแล้ว ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2 ปี นายสุพร ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นว่าจะก่อเหตุ ตนก็ไม่เข้าใจว่านายสุพร ทำไปเพราะอะไร
ต่อมานางปวีณา หงสกุล ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า หลังทราบเรื่อง ทางมูลนิธิ ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.รังสรรค์ สองสิงห์ พร้อมพาลูกสาวทั้งสองคน เข้าพบและส่งตัวเด็กตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ จนสามารถออกหมายจับและจับกุมตัวไว้ได้ ขอขอบคุณ พ.ค.อ.รังสรรค์ สองสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ส่วนเด็กและครอบครัวจะต้องได้รับกาฟื้นฟูสภาพจิตสุขภาพจิตของศูนย์พึ่งได้ของ รพ.ตำรวจ ซึ่งตนจะติดตามคดีและประสาน กระทรวงยุติธรรมให้การเยียวยาต่อไป