คัดลอก URL แล้ว
อภ. ชี้ จัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดถูกต้องตามข้อบังคับของ อภ. ยัน ไม่ผิด พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ

อภ. ชี้ จัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดถูกต้องตามข้อบังคับของ อภ. ยัน ไม่ผิด พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ

นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงถึงกระบวนการจัดซื้อชุดตรวจ Antigen test kit หรือ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด ว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง ซึ่งในพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 มาตรา 7(1) ข้อ 1 กล่าวชัดเจนว่า ไม่ได้บังคับใช้แก่การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง ดังนั้น พ.ร.บ.ฉบับนี้จึงไม่ได้บังคับใช้แก่องค์การเภสัชกรรม ดังนั้นองค์การเภสัชกรรมจึงสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้โดยไม่ผิดหลัก พ.ร.บ.ดังกล่าว

นอกจากนี้องค์การเภสัชกรรม ได้มีการจัดทำข้อบังคับขององค์การฯ ว่าด้วยการพัสดุเพื่อการผลิตและจำหน่ายปี 2561 สอดคล้องกับมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยหลักการณ์คุ้มค่า โปร่งใสมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ และทางคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ได้มีหนังสือตอบข้อหารือขององค์การเภสัชกรรม เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า องค์การเภสัชกรรมสามารถดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดได้ ตามข้อบังคับขององค์การเภสัชกรรม และสามารถใช้วิธีคัดเลือกได้ตามข้อบังคับที่ 13 (2) ดังนั้นองค์การเภสัชกรรมจึงดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้นให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. โดยโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้จัดหานั้น เพื่อให้หน่วยบริการในเครือข่ายและประชาชนจึงเป็นไปโดยชอบตามกฎหมาย

ด้านนางศิรินุช ชีวันพิศาลนุกูล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงกรณีที่องค์การเภสัชกรรมไม่ได้ซื้อชุดตรวจโดยตรงจากต่างประเทศนั้น เนื่องจากองค์การเภสัชกรรมได้ออกจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐแล้ว ดังนั้นการที่จะซื้อชุดตรวจ ATK โดยตรงจากต่างประเทศจึงมีข้อจำกัด และการนำเข้าชุดตรวจ ATK จะต้องมีการขึ้นทะเบียนตามหลักเกณฑ์ของ อย. และต้องผ่านการประเมินประสิทธิภาพโดยโรงเรียนแพทย์ ซึ่งกระบวนการต่างๆ ใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน แต่การจัดซื้อครั้งนี้เป็นการต้องการใช้อย่างเร่งด่วน ดังนั้นทางองค์การเภสัชกรรมจึงไม่ได้เลือกวิธีการซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ

ส่วนที่ไม่ซื้อจากผู้มีบัญชีขึ้นทะเบียนจากองค์การเภสัชกรรมไว้นั้น เนื่องจากชุดตรวจ ATK เป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในประเทศที่เพิ่งมีการนำมาใช้ และ อย.เพิ่งมีการขึ้นทะเบียนบริษัทผู้ประกอบการที่นำเข้าอย่างถูกต้องไปในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดังนั้นทางองค์การเภสัชกรรม จึงยังไม่ได้มีการประเมินและขึ้นทะเบียนของซัพพลายเออร์ไว้ในระบบขององค์การเภสัชกรรม ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้

ด้าน ดร.เภสัชกรหญิง นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า วันนี้จะมีการนำเข้าชุดตรวจ ATK ล็อตแรกจำนวน 3 ล้านชุด และช่วงบ่ายจะมีคณะกรรมการตรวจรับโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายประกันคุณภาพขององค์การเภสัชกรรมและสุ่มตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ ทดสอบคุณภาพ ให้เกิดความมั่นใจ ที่ห้องปฏิบัติคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อผลการทดสอบผ่านจะมีการกระจายชุดตรวจไปยังหน่วยบริการต่างๆ โดยบริษัทไปรษณีย์ ซึ่งเมื่อกระจายไปจนถึงประชาชนทางองค์การเภสัชกรรมจะมีการเฝ้าระวังคุณภาพภายหลังการส่งมอบด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ก็มีตัวอย่างที่เก็บไว้เพื่อยืนยันคุณภาพด้วยอีกส่วนหนึ่ง

ส่วนการส่งมอบจำนวนที่เหลือ จะทยอยส่งมอบในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบทั้งหมดจำนวน 8.5 ล้านชุดได้ภายในไม่เกินกลางเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้เบื้องต้น ได้รับแจ้งจากคณะอนุกรรมการ สปสช. ที่เป็นผู้กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับชุดตรวจว่า เบื้องต้นทาง สปสช.ได้จัดทำแผนและกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับชุดตรวจมาแล้วจำนวน 1,100 แห่ง โดยจะกระจายชุดตรวจไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และจะกระจายตามร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ชิดกับชุมชน โดยจะแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงคนละไม่เกิน 2 ชุด และมีการติดสติ้กเกอร์ห้ามจำหน่ายสีแดงที่กล่องผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันการนำไปขายต่อ