คัดลอก URL แล้ว
27 ปีผ่านไป ไขข้อสงสัยเหตุใด Forrest Gump จึงยังอยู่ในใจผู้คนไม่เสื่อมคลาย

27 ปีผ่านไป ไขข้อสงสัยเหตุใด Forrest Gump จึงยังอยู่ในใจผู้คนไม่เสื่อมคลาย

“แม่พูดเสมอว่า ‘ชีวิตเป็นเหมือนกล่องช็อกโกแลต ลูกไม่มีวันรู้หรอกว่าจะได้กินรสไหน’”

มีอยู่หลายเหตุผลที่ Forrest Gump (1994, โรเบิร์ต เซเม็กคิส) ยังคงเป็นหนังที่หลายคนรักแม้เวลาจะผ่านมานานถึง 27 ปี ในช่วงเวลาที่มันออกฉาย ตัวหนังก็วาดลวดลายและเป็นที่จดจำด้วยเสียงวิจารณ์แง่บวก, รายได้ 677 ล้านเหรียญฯ และรางวัลออสการ์ไปถึง 6 สาขา ทั้งหนังแห่งปี, นำชายยอดเยี่ยม รวมถึงผู้กำกับยอดเยี่ยม และประโยคข้างต้นก็ดูจะนิยามธีมของหนังดราม่าเรื่องนี้ได้ดีที่สุด โดย Forrest Gump จับจ้องไปยังชีวิตของ ฟอร์เรสต์ กัมป์ (ทอม แฮงค์ส) ชายผู้มีสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ด้วยไอคิวเพียง 75 เท่านั้น เขาปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไปตามกระแสธารของโชคชะตาดุจขนนกปลิวตามสายลม สิ่งเดียวที่เขาเอาดีได้คือการวิ่ง เพราะกัมป์ออกวิ่งเรื่อยๆ จนมันได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนผันจุดใหญ่ของหนังที่ทำให้หลายคนลืมไม่ลง

จุดเด่นอีกอย่างของหนังคือการที่มันผสานเรื่องราวเข้ากับสถานการณ์ทางการเมืองอันคุกรุ่นของอเมริกาในยุค 70 กัมป์ได้กลยาเป็นตัวแทนของการเข้าไปมีส่วนร่วมกับความขัดแย้งและความผกผันต่างๆ ทั้งวัยเด็กที่เจอกับ เอลวิส เพรสลีย์ ยอดนักดนตรีแห่งศตวรรษที่ 20 ของโลก, สงครามเวียดนาม, จอห์น เลนนอน ฟร้อนต์แมนวง The Beatles ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังสงคราม

แต่เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ Forrest Gump ยังเป็นหนังที่ครองใจคนจำนวนมากแม้ผ่านมานานขนาดนี้ นั่นคือการที่มันบอกเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความหวัง กัมป์เป็นตัวละครที่สว่างไสว (เสียจนแฮงค์สซึ่งรับบทนี้เถียงกับผู้กำกับว่า กัมป์มันไม่ ‘บริสุทธิ์’ ไปสักหน่อยเหรอ) สำหรับกัมป์แล้วชีวิตเป็นเสมือนกล่องช็อกโกแลตดังที่แม่บอก เขาไม่เคยต้องฝืนชะตากรรมและในขณะเดียวกันก็หาได้ฝันใฝ่อะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้อยู่กับ เจนนี (โรบิน ไรต์) เพื่อนสนิทจากวัยเด็กที่เติบโตและมีชีวิตที่หักเห เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าตัวละครอื่นใด

สิ่งที่หนังประสบความสำเร็จคือการสร้างตัวละครให้กัมป์เป็นชายที่เราอยากเอาใจช่วย และยังทำให้คนดูรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความหวังได้อย่างน่าชื่นชม และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแสดงอันแยบยลและหมดจดของแฮงค์ส ที่ส่งให้ตัวละครกัมป์มีเลือดเนื้อและชีวิต ฉากที่เขาพบความลับเกี่ยวกับ ฟอร์เรสต์ จูเนียร์ ที่เขาถ่ายทอดพลังการแสดงอย่างน่าตื่นตะลึงโดยไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อแม้สักมัด มีเพียงแววตาระริกไหวที่บ่งบอกถึงความตระหนกต่อข่าวคราวที่ได้ยินเท่านั้น

หากแต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เรามองข้ามไปไม่ได้เลยคือการกำกับของเซเม็กคิส ที่หากผิดพลาดไปกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว มันอาจกลายเป็นหนังที่ ‘เสแสร้งมองโลกในแง่ดี’ ที่หลายคนชังไปโดยปริยาย เซเม็กคิสได้ทำให้กัมป์ผู้เป็นตัวละครที่ไม่มีทัศนคติบวกลบต่อเรื่องใดๆ ในชีวิต สะท้อนเหตุการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ ในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี มุมมองที่กัมป์มีจึงบริสุทธิ์และปราศจากอคติ ในทางกลับกัน มันย่อมเป็นการชำแหละแผลใหญ่โตของอเมริกาที่เดินหน้าเข้าสงครามโดยไม่จำเป็น และทำลายชีวิตของผู้คนรวมทั้งตัวละครน้อยใหญ่ในเรื่อง กัมป์เป็นเพียงหนึ่งในผู้โชคดีที่รอดชีวิตกลับมาได้อย่างแทบจะไร้รอยขีดข่วน ไม่เพียงเท่านั้น สงครามยังส่งผลอย่างรุนแรงต่อสภาพบ้านเมืองจนหลายชีวิตต้องตกอยู่ในสภาพดิ้นรนเพื่อจะมีชีวิตรอด หรือแม้แต่สิ้นหวัง และกัมป์ได้เป็นตัวแทนของการนำความหวังเหล่านั้นกลับไปมอบให้หลายๆ คน

ด้วยเหตุนี้ ออสการ์ปี 1994 จึงถูกพิจารณาว่าเป็นปีที่แข็งที่สุดปีหนึ่ง เพราะมันเพียบไปด้วยหนังที่นักวิจารณ์ล้วนเทคะแนนบวกให้ทั้ง Pulp Fiction, The Shawshank Redemption, Quiz Show และ Four Weddings and a Funeral หากแต่การคว้ารางวัลติดมือกลับบ้านมาได้มากมาย Forrest Gump ก็หาได้ค้านสายตาคนส่วนใหญ่ เพราะมันได้พิสูจน์ทั้งในเวลานั้น และยาวมาจนถึงตอนนี้ ว่าหนังคู่ควรกับรางวัลมากแล้วจริงๆ

ชายหนุ่มไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน จากอลาบาม่า ที่มีนิสัยน่ารักและมีจิตใจดี ในภาพยนตร์ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1950 – 1970 จากคนร่างกายพิการไปเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล เป็นทหารในสงครามเวียดนาม!

ติดตามรับชม

Forrest Gump อัจฉริยะปัญญานิ่ม
วันศุกร์ที่ 23 กรกฏาคม เวลา 19.45 น.ทางช่อง MONO29

สามารถชมทางออนไลน์ได้ที่ : https://mono29.com/livetv

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์
: https://movie.mthai.com/bioscope


Movie & Series Talk