สายลับ 007 กำลังจะกลับมาวาดลวดลายภารกิจล่าสุดของเขาอีกครั้ง เราจึงรวบรวมไอเทมต่างๆ เกี่ยวกับ James Bond ที่ผลิตออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของภาพยนตร์ รวมทั้งรถคู่ใจและนาฬิกาที่ใช้ในภาพยนตร์มาให้เหล่าสาวก เจมส์ บอนด์ ได้ระลึกถึงกันสักหน่อย ว่ามีอะไรน่าสนใจเก็บสะสมบ้าง ตามไปดูกันเลยยย
James Bond 007 Fragrance for Men
ในโอกาสครอบ 50 ปีของยอดนักสืบเจ้าเสน่ห์ เจมส์ บอนด์ จากฝีมือนักเขียน เอียน เฟลมมิ่ง ได้มีการทำของที่ระลึกมาให้แฟนๆ ได้เก็บสะสมกัน ของที่ว่าคือน้ำหอมนั่นเอง โดยได้ Procter & Gamble Co. และ Eon Productions จับมือกันผลิตออกมา ส่วนผสมของน้ำหอมจะมี “fresh apple, cardamom, sandalwood, vetiver, backbone of lavender, moss and coumarin” ส่วนผสมมากมายอย่างนี้จึงรับประกันได้ว่าต้องหอมแบบเย้ายวนใจสาวๆ แบบที่เจมส์ บอนด์ทุกภาคเป็นอยู่แน่นอน
OMEGA SEAMASTER AQUA TERRA GOLDFINGER WATCH
ตำนานคือสิ่งที่เป็นนิรันดร์และนี่คือนาฬิกาที่ทำออกมาเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของภาพยนตร์ในตำนานเจมส์ บอนด์ 007 และได้เลือกตอน GOLDFINGER มาเป็นคอนเซ็ปต์ เหตุผลคือเป็นหนึ่งในตอนที่ดีที่สุดตลอดกาลของภาพยนตร์สุดคลาสสิกชุดนี้ OMEGA SEAMASTER AQUA TERRA GOLDFINGER โดดเด่นด้วยการชุบทอง 18 K ทั้งตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีล หน้าปัดเคลือบด้วย SUPER-LUMINOVA เป็นสารที่ลดการสะท้อนการรบกวนของแสง ทำให้สามารถเห็นเวลาในทุกสถานการณ์ เข็มวินาทีเพิ่มลูกเล่นโดยการใส่รหัส 007 ไว้ที่ปลายเข็มด้วย ส่วนด้านหลังยังคงคอนเซ็ปต์ทองอร่ามไว้อย่างเต็มที่มีการใช้คริสตัลใสเปลือยให้เห็นเครื่อง CO-AXIAL CALIBRE 8501 สีทอง ทนต่อสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สมแล้วที่สายลับเจมส์ บอนด์มั่นใจใช้บริการนาฬิกาของ OMEGA มาตั้งแต่ภาค GOLDENEYE ในปี 1995 มาจนถึงปัจจุบัน
ไหนๆ พูดถึงครบรอบ 50 ปีที่ผ่านมากันแล้ว จะไม่พูดถึงของที่ระลึกที่เคยใช้ในหนัง ซึ่งนำออกมาประมูลหาเงินเข้าการกุศลและกองทุน UNICEF โดยการประมูลจัดโดยบริษัท คริสตีส์ คงไม่ได้ โดยในงานมีแขกผู้มีเกียรติร่วมกันอย่างคับคั่ง เช่น บอนด์รุ่นเก๋าอย่าง โรเจอร์ มัวร์ ที่เคยแสดงไว้ในช่วง 1973 – 1985 และ จูดี เดนช์ นักแสดงออสการ์ที่แสดงภาค Skyfall ด้วย
ไฮไลท์ในงานอยู่ที่รถ Aston Martin DBS ที่ แดเนียล เครก ขับไล่ล่าเหล่าร้ายในภาค “Quantum of Solace” ถูกประมูลไปได้ถึง 390,101 ดอลลาร์ หรือประมาณ 12 ล้านบาทเรียกว่าเกินความคาดหมายไปเยอะทีเดียว
ของที่ถูกประมูลอย่างอื่นที่น่าสนใจคือ นาฬิกาข้อมือโอเมกาที่เครกสวมใน Skyfall ถูกประมูลไปด้วยราคา 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (7.67 ล้านบาท)
ชุดทักซิโดของเครกที่ตัดเย็บโดย ทอม ฟอร์ด ดีไซน์เนอร์ชื่อดังทำเงินได้ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ (2.3 ล้านบาท)
แต่สิ่งที่ทำเราอึ้งที่สุดไปอยู่ที่กางเกงว่ายน้ำสีฟ้าสดใสที่เครกสวมในเจมส์ บอนด์ ภาค Casino Royale ปี 2006 มีคนประมูลไปในราคาแพงลิบลิ่วที่ 71,876 ดอลลาร์สหรัฐ (2.2 ล้านบาท) เลยทีเดียว(สงสัยว่าคนที่ได้ไปเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่) สรุปยอดรวมการประมูลทำรายได้รวมทั้งสิ้น 2,615,000 ดอลลาร์สหรัฐ (80.38 ล้านบาท) เข้าการกุศลเรียบร้อย
COCA-COLA UNVEILS LIMITED EDITION ‘JAMES BOND’ SERIES – CANS & BOTTLES
เอาใจนักสะสมกันสุดฤทธิ์สำหรับโค้กซีโร่ที่มีเจมส์ บอนด์แปะอยู่ข้างขวดและกระป๋อง ซึ่งแท้จริงเป็นแคมเปญของโค้กในชื่อ Unlock the 007 in You เพื่อโปรโมทเจมส์ บอนด์ภาค Skyfall นั่นเอง กระซิบอีกนิดว่าของที่ระลึกซี่รี่ส์นี้เป็นลิมิเต็ดซะด้วย
Lotus Esprit Series 1
ใครที่เป็นแฟนของพ่อหนุ่มสายลับเจ้าเสน่ห์เจมส์ บอนด์คงได้เห็นรถสวยๆ ผ่านตานับไม่ถ้วนในทุกๆ ภาค แต่เชื่อว่ามีอยู่คันนึงที่หลายคนประทับใจในความสวยและแปลกในคราวเดียว Lotus Esprit Series 1 หรือฉายา Wet Nellie ที่ถูกใช้ในภาค The Spy Who Loved Me ปี 1977 นั่นเอง ที่เจ๋งคือรถคันนี้ถูกสร้างมาให้ดำน้ำได้จริงๆ โดยบริษัท Perry Oceanographic ซึ่งในเรื่องคนที่ขับคือ Don Griffin อดีตนาวิกโยธินของสหรัฐฯ
2015 Aston Martin V8 Vantage N430
ถ้าพูดถึงรถสปอร์ตคู่ใจของสายลับหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ‘James Bond’ ทุกคนคงนึกถึงยนตรกรรมสุดหรูอย่าง Aston Martin และนั่นทำให้รถแบรนด์นี้กลายเป็นรถในฝันของใครหลายคน เพราะนอกจากดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวแต่ยังดูเป็นผู้ดีอังกฤษเหมือนต้นกำเนิด อีกทั้งยังจัดเต็มสมรรถนะมาให้อย่างไม่มีอั้น 2015 Aston Martin V8 Vantage N430 ถูกปล่อยออกมาในปีนี้ให้สาวกได้น้ำลายไหลกันถ้วนหน้า หลังจากได้อวดโฉมไปในงานเจนีวามอเตอร์โชว์และสร้างความฮือฮาให้กับผู้สนใจได้อย่างล้นหลาม โดย V8 Vantage N430 ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจาก Aston Martin ACC100 ซูเปอร์คาร์ในคราบรถแข่ง ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี โดยผลิตออกมาเพียง 2 คัน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Aston Martin DBR1 ปี 1959 รถแข่งเปิดประทุน 2 ที่นั่งแนวสปีดสเตอร์นั่นเอง
Armatix iP1 Digital Smart Gun
อาวุธที่มาในคราบของ Gadget สุดล้ำ ถูกพัฒนาโดยบริษัทจากเยอรมัน การทำงานของมันต้องใช้ร่วมกับนาฬิกาข้อมือภายใต้เงื่อนไขคือต้องอยู่คู่กันในรัศมี 40 เซนติเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันชั้นที่ 2 คือต้องเข้ารหัส 5 หลักถึงจะเหนี่ยวไกปืนได้ นอกจากเทคโนโลยีที่เข้ามาแล้วเสน่ห์อีกอย่างของ Armatix iP1 อยู่ที่ดีไซน์ซึ่งทำออกมาได้น่าใช้ดีจริงๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Walther PPK/S 9mm ปืนคู่บุญของเจมส์ บอนด์ในภาค Skyfall หลักการทำงานของ Armatix iP1 คือตัวชิฟที่ถูกฝังไว้ในกระบอกปืนจะปล่อยคลื่นวิทยุออกมาตอบสนองกับนาฬิกาข้อมือของผู้สวมใส่ถึงจะเหนี่ยวไกออกมาได้ ส่วนรหัส 5 ตัวนั้นสำหรับที่คุณบังเอิญทำปืนหล่นหายหรือถูกตัวร้ายฉกไปปืนจะล็อคตัวเองอัติโนมัติทำให้แปลงร่างเป็นที่ทับกระดาษไปโดยปริยาย ลูกเล่นที่น่าสนใจอื่นๆ คือที่ตัวปืนจะมีไฟ LED สำหรับบอกสถานะว่ามีกระสุนอยู่ในแมกกาซีนกี่นัด นอกจากนี้มันยังตั้งโปรแกรมสำหรับให้ยิงออกมาตามจำนวนนัดที่ตั้งไว้ได้ด้วย ส่วนน้ำหนักของ Armatix iP1 อยู่ที่ 518 กรัมใช้กับกระสุน .22 LR caliber โดยมีระยะหวังผลที่ 69 เมตรเลยทีเดียว
นาฬิการุ่น Omega Seamaster 300 SPECTRE Limited Edition ซึ่งมีความไม่ธรรมดาตรงที่มันเป็นบอนด์ วอทช์ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ที่ จะวางจำหน่ายในรูปลักษณ์เดียวกันกับรุ่นที่เจมส์ บอนด์ สวมใส่ในหนังภาค SPECTRE
อันที่จริง Omega Seamaster ได้ปรากฏโฉมในฐานะนาฬิกาคู่กายเจมส์ บอนด์ มาตั้งแต่ตอน Golden Eyes เมื่อปี 1995 แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีบอนด์ วอทช์ที่เห็นในหนังรุ่นไหนเลยที่ได้รับการผลิตออกมาขายจริงๆ มาก่อน จะมีก็แต่ Omega Seamaster รุ่นพิเศษสำหรับเป็นที่ระลึกจากหนังเท่านั้น จนมาถึง 300 SPECTRE รุ่นนี้ที่มีหน้าตาโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกับบอนด์ วอทช์บนข้อมือแดเนียล เครกใน SPECTE โดยผลิตขึ้นมาแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวน 7,007 เรือน สิ่งแรกที่สะดุดตาบนหน้าปัดของบอนด์ วอทช์รุ่นนี้ที่พัฒนามาจาก Seamaster รุ่นคลาสสิกที่ผลิตขึ้นมาช่วงยุค 1950 ก็คือดีไซน์ “ลอลลิป๊อป” ทรงกลมตรงปลายเข็มวินาทีที่ในรุ่นปกติจะเป็นปลายรูปหัวลูกศร
Seamaster 300 SPECTRE Limited Edition มีขอบหน้าปัดเซรามิกสีดำแสดงเวลาแบบ 12 ชั่วโมงที่สามารถหมุนได้ทั้งสองทิศทางแบบนาฬิกาดำน้ำตามชื่อรุ่น Seamaster ที่มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือมายาวนาน สำหรับเครื่องกลไกเป็น Omega Master Co-Axial caliber 8400 และห่อหุ้มอย่างแน่นหนาด้วยโลหะผสมเซอร์โคเนียมลิขสิทธิ์เฉพาะของ Omega ที่เรียกว่า “ลิควิดเมทัล” ตัวเรือนด้านหลังสลักคำว่า SPECTRE และหมายเลขลำดับเฉพาะของนาฬิกาแต่ละเรือน อีกหนึ่งไฮไลท์ของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่สาย NATO ผ้าลายทางสีเทา-ดำ พร้อมด้วยโลโก้ 007 กับปืนสลักอยู่บนเหล็กคาดตัวสาย ราคาโดยประมาณอยู่ที่ 7,500 ยูเอสดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์
: https://movie.mthai.com/