นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นางสาวรัตนาภรณ์ นุชศิริ อายุ 42 ปี วิศวกรสาวผู้เสียหาย เข้าพบ ร.ต.อ.วรินทร วัชะศิรินทร์ รอง.สว.สอบสวน กก.4.บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ด้วยข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม นางสาวรัตนาภรณ์กล่าวว่าทางโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวได้มีการลงประวัติการรักษาของตนผิดพลาดโดยข้อมูลการเข้ารับการรักษาไม่ตรงกับการรักษาจริง ส่งผลให้บริษัทประกันยกเลิกกรมธรรม์สุขภาพและไม่สามารถเคลมค่ารักษาได้ โดยตนได้มีการเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลแห่งนั้นจริงแต่ด้วยอาการท้องเสียต่อมามีการตรวจพบว่าตนเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ตนจึงทำเรื่องขอเคลมค่ารักษาจากบริษัทประกันที่ได้ทำไว้ซึ่งเป็นกรมธรรม์สำหรับโรคร้ายแรง โดยตนซื้อกรมธรรม์นี้ไว้เมื่อต้นปี 2564 ซึ่งจากการทำเรื่องขอเคลมค่ารักษาทางบริษัทประกันจึงได้มีการตรวจสอบการรักษาพยาบาลของตนในช่วงก่อนหน้านี้และพบว่าโรงพยาบาลดังกล่าวไม่เคยเข้ารับการรักษาด้วยอาการท้องเสียได้ลงประวัติว่าตนนอนโรงพยาบาล 4 คืนและตรวจพบมะเร็งปากมดลูกก่อนหน้าที่จะมีการทำสัญญาซึ่งตนได้ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และตนนั้นไม่เคยตรวจรักษาในโรงพยาบาลดังกล่าว
นางสาวรัตนาภรณ์ เปิดเผยอีกว่า ทางโรงพยาบาลได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังบริษัทประกันถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหน้าที่นั้นต่อมาทางบริษัทประกันจึงได้มีการดำเนินเรื่องและยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงิน 1,075,000 บาทให้ตนทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้เสนอสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลจำนวน 200,000 บาทแต่ตนไม่ขอรับไว้เนื่องจากหมดความเชื่อมั่นในโรงพยาบาลแห่งนี้แล้วและตนมองว่าโรงพยาบาลเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหากเกิดเหตุผิดพลาดในรูปแบบนี้ควรแสดงความรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและควรมีมาตรฐานกว่านี้
นายรณณรงค์ กล่าวว่า ความประมาทที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ของโรงพยาบาลเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง สร้างความเสียหายต่อผู้เสียหายอย่างมากโดยตนได้เคยร้องเรียนกับหลายหน่วยงานแต่ไม่มีความคืบหน้าตนจึงสงสัยว่าทำไมไม่มีหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขไหนมารับผิดชอบหรือตรวจสอบมาตรฐานของโรงพยาบาลซึ่งตนจะดำเนินคดีการปลอมแปลงเอกสารของทางโรงพยาบาลและฝากถึงกระทรวงสาธารณสุขว่าควรใส่ใจกับการตรวจสอบและรับผิดชอบคุณภาพของโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนให้มากกว่านี้